สายไฟที่ใช้ในระบบพลังงานแสงอาทิตย์นั้นจะมีความแตกต่างจากสายไฟปกติที่เราใช้กันตามบ้านที่เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) แรงดัน 220v ในระบบพลังงานแสงอาทิตย์จะเป็นเป็น ไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่มีแรงดัน 12v/24v (แรงดันอาจจะมีมากกว่านี้แต่โดยส่วนใหญ่จะใช้แค่นี้) ทั้ง AC และ DC มีความแตกต่างกันในเรื่องกระแสที่วิ่งในสายเป็นหลัก
- ระบบ AC ไฟฟ้าจะวิ่งภายในตัวนำ หรือ ลวดทองแดง นั่นคือ ระบบ AC ใช้สายแบบลวดทองแดงเส้นเดียวได้
- ระบบ DC ไฟฟ้าจะวิ่งอยู่บนพื้นผิวของตัวนำ นั่นคือสายไฟจะเป็นแบบที่เป็นเส้นเล็กๆรวมๆกันเป็นเส้นใหญ่อีกที สามารถนำไฟฟ้าได้ดีเพราะจะมีพื้นผิวมาก เรียกสายแบบนี้ว่า PV1-F ซึ่งจะมีสี ดำ และ แดง เป็นหลัก จะเป็นสายคู่หรือสายเดี่ยวก็ได้ มีการเคลือบผิวลวดทองแดงด้วยดีบุกเพื่อป้องกันคราบขี้เกลือที่จะเกิดขึ้นได้ ราคาของสายจึงแพงกว่าสายแบบ AC

ขนาดของสายไฟ PV1-F ก็จะมีขนาด และ รองรับปริมาณกระแสไฟได้ ตามรูป ส่วนใหญ่เราจะใช้ที่เบอร์ 4 หรือ 1x4 mm2 สามารถรับกระแสได้ 55A
เนื่องจาก สายไฟจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ จึงทำให้การเชื่อมต่อสายจำเป็นต้องมีข้อต่อสาย ซึ่งข้อต่อสายจะเรียกว่า ข้อต่อ MC4 โดยจะมีสองแบบเป็นตัวผู้ กับตัวเมีย เพื่อให้ง่ายต่อการติดตั้ง และข้อต่อ MC4 นี้ก็สามารถกันน้ำได้ด้วยเพราะต้องอยู่กลางแจ้งตลอดเวลา
ปัจจุบันข้อต่อ MC4 ได้มีการออกแบบจากเดิมที่เป็นการเชื่อมต่อแบบ 1:1 ให้กลายเป็นแบบ 1:2 หรือ 1:3 แล้วแต่ความต้องการว่าเราจะติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์แบบ อนุกรม หรือแบบขนาน
ในการทำระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ไฟฟ้าที่มาจากแผงรับพลังงานแสงอาทิตย์ จะถูกส่งต่อไปยัง Control Changer เพื่อต่อลงแบตเตอรี่อีกที ในส่วนนี้ควรจะใช้สาย PV1-F เป็นหลัก และต้องใช้ระยะทางที่สั้นที่สุด เพราะจะช่วยให้ไฟฟ้าที่ได้มีปริมาณสูงสุด ส่วนสายที่ใช้เชื่อมต่อไปยังโหลดต่างๆ จะใช้สายแบบ AC ปกติก็ได้เพราะราคาต่อเมตรจะถูกกว่า แต่ก็ไม่ควรเดินสายระยะที่ไกลเกินไปเช่นกัน
ข้อมูลที่มาจาก
- Internet
- http://www.solar-thailand.com
- https://solarcellthailand96.com
- https://www.tsc-th.com